หมายเลขบัตรประชาชน มีทั้งหมด 13 หลัก ใช้เป็นเลขเรียกประจำตัวคนไทยคนนั้นๆ ดังนั้นมันจึงไม่มีซ้ำกันเลย
แต่จะมีสักกี่คนที่ความหมายตัวเลขทั้ง 13 หลักเหล่านั้น
ความหมายของเลขประจำตัวประชาชนทั้ง 13 หลัก หลักที่ 1 หมายถึงประเภทบุคคลซึ่งมี 8 ประเภท คือ
ประเภทที่ 1 ได้แก่ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย ได้แจ้งเกิดภายในกำหนดเวลา (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2527)
ประเภทที่ 2 ได้แก่ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย ได้แจ้งเกิดเกินกำหนดเวลา (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2527)
ประเภทที่ 3 ได้แก่ คนไทยและคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ในสมัยเริ่มแรก (1 มกราคม - 31 พฤษภาคม 2527)
ประเภทที่ 4 ได้แก่ คนไทยและคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญคนต่างด้าวแต่แจ้งย้ายเข้า โดยยังไม่มีเลขประจำตัวประชาชนในสมัยเริ่มแรก (1 มกราคม - 31 พฤษภาคม 2527)
ประเภทที่ 5 ได้แก่ คนไทยที่ได้รับอนุมัติให้เพิ่มชื่อเข้าใน ทะเบียนบ้านในกรณีตกสำรวจหรือกรณีอื่น ๆ
ประเภทที่ 6 ได้แก่ ผู้ที่เข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย และผู้ที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฏหมาย แต่จะอยู่ในลักษณะชั่วคราว
ประเภทที่ 7 ได้แก่ บุตรของบุคคลประเภทที่ 6 ซึ่งเกิดในประเทศไทย
ประเภทที่ 8 ได้แก่ คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฏหมาย คือ ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว คนที่ได้รับการแปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทย และคนที่ได้รับการให้สัญชาติไทย
หลักที่ 2 - หลักที่ 5 หมายถึงรหัสของสำนักทะเบียนที่ท่านมีชื่อในทะเบียนบ้านในขณะให้เลข สำหรับเด็กเกิดใหม่จะหมายถึงถิ่นที่เกิดเลยทีเดียว โดยหลักที่ 2 และ 3 หมายถึงจังหวัด หลักที่ 4 และ 5 หมายถึงอำเภอ หรือเทศบาล
หลักที่ 6 - หลักที่ 10 หมายถึงกลุ่มที่ของบุคคลแต่ละประเภทตามหลักแรก หรือหมายถึงเล่มที่ ของสูติบัตร แล้วแต่กรณี
หลักที่ 11 และ 12 หมายถึงลำดับที่ของบุคคลในแต่ละกลุ่มประเภท หรือหมายถึงใบที่ของสูติบัตรแต่ละเล่ม แล้วแต่กรณี
หลักที่ 13 คือ ตัวเลขตรวจสอบความถูกต้องของเลข 12 หลักแรก
วิธีการคำนวนเพื่อสร้างหมายเลขประจำตัวประชาชน
การสร้างหมายเลขประจำตัวประชาชนขึ้นมานั้น จุดประสงค์ของมันคือเพื่อ หา หลัก ที่ 13 เพราะถ้ามันสร้างง่ายๆนั้นแค่แปลความหมายเป็นเลขแค่นั้น คนไทยคงมีเต็มบ้านเต็มเมือง ถ้าว่าคนที่รู้ความหมายของเลข 13 หลักมีน้อยแล้ว คนที่รู้สูตรการสร้าง หมายเลขประจำตัวประชาชน ยังมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อยอีก
จะลองดูกับบัตรของพวกคุณก็ได้ !!
ขั้นตอนที่ 1. สร้างเลขขึ้นมา 12 หลักถ้าอยากให้เนียน ควรสร้างตามหลักความหมาย นั้นคือ หลักที่ 1 เป็นไปได้ แค่ 1 - 8
ขั้นตอนที่ 2. เอาเลขแต่ละหลักคูณกับเลขประจำหลัก ตามนี้
เอาหลักที่ 1 คูณกับ 13
เอาหลักที่ 2 คูณกับ 12
เอาหลักที่ 3 คูณกับ 11
เอาหลักที่ 4 คูณกับ 10
เอาหลักที่ 5 คูณกับ 9
เอาหลักที่ 6 คูณกับ 8
เอาหลักที่ 7 คูณกับ 7
เอาหลักที่ 8 คูณกับ 6
เอาหลักที่ 9 คูณกับ 5
เอาหลักที่ 10 คูณกับ 4
เอาหลักที่ 11 คูณกับ 3
เอาหลักที่ 12 คูณกับ 2
ขั้นตอนที่ 3. รวมยอดทั้งหมด ด้วยการเอามาบวกกัน
ขั้นตอนที่ 4.หารด้วย 11 เหลือเศษเท่าไหร่ ( หารแบบ Modulusน่ะแหละ )เอาไปลบกับ 11
ขั้นตอนที่ 5.เลขที่ได้คือเลขบัตรประชาชนตัวสุดท้าย หรือ หลักที่ 13 นั่นเอง
ตัวอย่าง
1. สร้างเลขบัตรประชาชนขึ้นมา 12 หลัก: 310210161558X
2. คูณกับเลขประจำหลักแล้วรวมยอดทั้งหมด : (3 x 13)+(1x 12)+(0 x 11)+(2x 10)+(1x 9)+(0 x +(1 x 7)+(6x 6)+(1 x 5)+(5x 4)+(5x 3)+(8x 2) = 179
3. เอา Mod 11 : 179 หาร 11 ได้เศษ 3
4. เอาไปลบกับ 11 : เอาเศษ 3 ที่ได้ไปลบ 11 - 3 เลขตัวสุดท้ายของบัตรประชาชนคือ 8
ดังนั้น ประจำตัวประชาชนหมายเลขนี้คือ 3102101615588
แต่จะมีสักกี่คนที่ความหมายตัวเลขทั้ง 13 หลักเหล่านั้น
ความหมายของเลขประจำตัวประชาชนทั้ง 13 หลัก หลักที่ 1 หมายถึงประเภทบุคคลซึ่งมี 8 ประเภท คือ
ประเภทที่ 1 ได้แก่ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย ได้แจ้งเกิดภายในกำหนดเวลา (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2527)
ประเภทที่ 2 ได้แก่ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย ได้แจ้งเกิดเกินกำหนดเวลา (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2527)
ประเภทที่ 3 ได้แก่ คนไทยและคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ในสมัยเริ่มแรก (1 มกราคม - 31 พฤษภาคม 2527)
ประเภทที่ 4 ได้แก่ คนไทยและคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญคนต่างด้าวแต่แจ้งย้ายเข้า โดยยังไม่มีเลขประจำตัวประชาชนในสมัยเริ่มแรก (1 มกราคม - 31 พฤษภาคม 2527)
ประเภทที่ 5 ได้แก่ คนไทยที่ได้รับอนุมัติให้เพิ่มชื่อเข้าใน ทะเบียนบ้านในกรณีตกสำรวจหรือกรณีอื่น ๆ
ประเภทที่ 6 ได้แก่ ผู้ที่เข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย และผู้ที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฏหมาย แต่จะอยู่ในลักษณะชั่วคราว
ประเภทที่ 7 ได้แก่ บุตรของบุคคลประเภทที่ 6 ซึ่งเกิดในประเทศไทย
ประเภทที่ 8 ได้แก่ คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฏหมาย คือ ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว คนที่ได้รับการแปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทย และคนที่ได้รับการให้สัญชาติไทย
หลักที่ 2 - หลักที่ 5 หมายถึงรหัสของสำนักทะเบียนที่ท่านมีชื่อในทะเบียนบ้านในขณะให้เลข สำหรับเด็กเกิดใหม่จะหมายถึงถิ่นที่เกิดเลยทีเดียว โดยหลักที่ 2 และ 3 หมายถึงจังหวัด หลักที่ 4 และ 5 หมายถึงอำเภอ หรือเทศบาล
หลักที่ 6 - หลักที่ 10 หมายถึงกลุ่มที่ของบุคคลแต่ละประเภทตามหลักแรก หรือหมายถึงเล่มที่ ของสูติบัตร แล้วแต่กรณี
หลักที่ 11 และ 12 หมายถึงลำดับที่ของบุคคลในแต่ละกลุ่มประเภท หรือหมายถึงใบที่ของสูติบัตรแต่ละเล่ม แล้วแต่กรณี
หลักที่ 13 คือ ตัวเลขตรวจสอบความถูกต้องของเลข 12 หลักแรก
วิธีการคำนวนเพื่อสร้างหมายเลขประจำตัวประชาชน
การสร้างหมายเลขประจำตัวประชาชนขึ้นมานั้น จุดประสงค์ของมันคือเพื่อ หา หลัก ที่ 13 เพราะถ้ามันสร้างง่ายๆนั้นแค่แปลความหมายเป็นเลขแค่นั้น คนไทยคงมีเต็มบ้านเต็มเมือง ถ้าว่าคนที่รู้ความหมายของเลข 13 หลักมีน้อยแล้ว คนที่รู้สูตรการสร้าง หมายเลขประจำตัวประชาชน ยังมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อยอีก
จะลองดูกับบัตรของพวกคุณก็ได้ !!
ขั้นตอนที่ 1. สร้างเลขขึ้นมา 12 หลักถ้าอยากให้เนียน ควรสร้างตามหลักความหมาย นั้นคือ หลักที่ 1 เป็นไปได้ แค่ 1 - 8
ขั้นตอนที่ 2. เอาเลขแต่ละหลักคูณกับเลขประจำหลัก ตามนี้
เอาหลักที่ 1 คูณกับ 13
เอาหลักที่ 2 คูณกับ 12
เอาหลักที่ 3 คูณกับ 11
เอาหลักที่ 4 คูณกับ 10
เอาหลักที่ 5 คูณกับ 9
เอาหลักที่ 6 คูณกับ 8
เอาหลักที่ 7 คูณกับ 7
เอาหลักที่ 8 คูณกับ 6
เอาหลักที่ 9 คูณกับ 5
เอาหลักที่ 10 คูณกับ 4
เอาหลักที่ 11 คูณกับ 3
เอาหลักที่ 12 คูณกับ 2
ขั้นตอนที่ 3. รวมยอดทั้งหมด ด้วยการเอามาบวกกัน
ขั้นตอนที่ 4.หารด้วย 11 เหลือเศษเท่าไหร่ ( หารแบบ Modulusน่ะแหละ )เอาไปลบกับ 11
ขั้นตอนที่ 5.เลขที่ได้คือเลขบัตรประชาชนตัวสุดท้าย หรือ หลักที่ 13 นั่นเอง
ตัวอย่าง
1. สร้างเลขบัตรประชาชนขึ้นมา 12 หลัก: 310210161558X
2. คูณกับเลขประจำหลักแล้วรวมยอดทั้งหมด : (3 x 13)+(1x 12)+(0 x 11)+(2x 10)+(1x 9)+(0 x +(1 x 7)+(6x 6)+(1 x 5)+(5x 4)+(5x 3)+(8x 2) = 179
3. เอา Mod 11 : 179 หาร 11 ได้เศษ 3
4. เอาไปลบกับ 11 : เอาเศษ 3 ที่ได้ไปลบ 11 - 3 เลขตัวสุดท้ายของบัตรประชาชนคือ 8
ดังนั้น ประจำตัวประชาชนหมายเลขนี้คือ 3102101615588